อวสานวง "คาร่า" ? สมาชิก 3 คนตัดสินใจไม่ต่อสัญญาต้นสังกัด ส่อซ้ำรอย "ดงบังชินกิ"

อวสานวง "คาร่า" ? สมาชิก 3 คนตัดสินใจไม่ต่อสัญญาต้นสังกัด ส่อซ้ำรอย "ดงบังชินกิ"
ความคืบหน้าเกี่ยวกับการต่อหรือไม่ต่อสัญญาของสมาชิกทั้ง 5 คนของ สาวๆ เกิร์ลกรุ๊ป "คาร่า" ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา มีรายงานว่าสมาชิก 3 ใน 5 ของวงตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด DSP Media แล้ว ได้แก่ "ฮัน ซึงยอน" (23 ปี) , "จาง นิโคล" (20ปี) , "คัง จียอง" (17ปี) โดยเผยผ่าน "แลนดมาร์ก" ตัวแทนทางกฎหมาย ขณะที่สองคนที่เหลือ ได้แก่ "ปาร์ค กยูริ" (23ปี) และ "กู ฮารา" ยังไม่ได้ตัดสินใจ

ตัวแทนกฎหมายแลนด์มาร์ก กล่าวว่า ทางต้นสังกัดบังคับให้สมาชิกวงเปิดการแสดง และยังดูถูกดูแคลนบุคคลิกของสมาชิกอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการบังคับให้เซ็นสัญญาต่างๆ อีกมากมายโดยปราศจากการอธิบายถึงรายละเอียดในการทำสัญญา


"สำหรับสาวๆ วงคาร่ามีความหมายกับบริษัทเพียงแค่ตัวทำเงิน และความเชื่อใจระหว่างต้นสังกัดกับศิลปินก็พังทลายไม่เหลือและยากเกินจะเยียวยาได้อีกแล้ว" แลนดมาร์ก กล่าว และก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า "กู ฮารา" ที่ได้ประกาศว่าจะไม่ต่อสัญญากับ DSP Media แต่สุดท้ายเธอก็เปลี่ยนใจแล้ว

"สำหรับสมาชิก 3 คนที่ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าตารางงานในอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะว่าต้นสังกัดไม่เคยให้พวกเธอได้รู้เลย ซึ่งเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้หนึ่งในห้าสมาชิกตัดสินใจไม่ต่อสัญญา อย่างไรก็ตาม พวกเค้าก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ตารางงานทุกอย่างสมบูรณ์พร้อมตามที่วางแผนไว้" ตัวแทนกฎหมายกล่าว นอกจากนี้ ในส่วนของละครเรียลลิตี้ที่ญี่ปุ่น "Urakara" สมาชิกวงยืนยันที่จะเดินหน้าถ่ายทำต่อไป

ด้าน DSP Media ไม่สนใจข้อกล่าวหาต่างๆ โดยระบุว่าเป็นเรื่องไร้เหตุผลสิ้นดี พร้อมกับตอบโต้ว่า สิ่งต่างๆ ที่ฝ่ายนั้นอ้างมาเป็นเพียงการทำลายชื่อเสียงในความซื่อสัตย์ที่ทางบริษัทเอเจนซี่ได้สั่งสมมาก ซึ่งพวกเราทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างให้วงคาร่าเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปแถวหน้าของเกาหลี และแม้ว่าจะมีการแบ่งผลกำไรแต่ตัวศิลปินก็ยังได้มากกว่าบริษัทอยู่ดี

นอกจากนี้ DSP Media ยังตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้ที่บริษัทเอเจนซี่คู่แข่งจะอยู่เบื้องหลังการที่นักร้องตัดสินใจไม่ต่อสัญญาครั้งนี้ และกำลังแสวงหาผลประโยชน์ครั้งใหญ่จากความนิยมในวงคาร่า

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2009 สมาชิกวงดงบังชินกิ และซุปเปอร์จูเนียร์ ก็มีกรณีที่คล้ายกันคือมีปัญหาเรื่องสัญญากับต้นสังกัด SM Entertainment จนนำไปสู่การฟ้องร้องเป็นคดีความระหว่างศิลปินกับเอเจนซี่ ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัวสัญญาระหว่างเอเจนซี่กับศิลปิน คือทำให้การเซ็นสัญญาเรื่องอายุงานสั้นลง จาก 13 ปีเป็น 7 ปี พร้อมทั้งตัดเงื่อนไขพิเศษบางอย่างที่ผูกมัดมากเกินไป มีการยกเลิกค่าธรรมเนียม และกิจกรรมบางอย่างที่ไม่จำเป็นหรือเกินหน้าที่ลงด้วย

บางเอเจนซี่กล่าวว่า พวกเค้าได้เพิ่มบางวลีลงในสัญญา คือในสัญญากำหนดให้เอเจนซี่ต้องอธิบายถึงความสำคัญของตารางงานให้ศิลปินรับทราบด้วย แต่ปรากฏว่ายังเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีกจึงเกิดการตั้งคำถามถึงการเปลี่ยนแปลที่เกิดขึ้น

"เอเจนซี่ชั้นนำหลายแห่งจะนึกถึงศิลปินเป็นเพียงแค่ตัวทำเงินเท่านั้น บวกกับความทะเยอทะยานของศิลปินเอง จึงทำให้เกิดปัญหาสัญญาทาส เพราะว่าพวกเค้าต้องการมีชื่อเสียง ดังนั้น หากจะกล่าวโทษก็ต้องโทษทั้งสองฝ่าย" นักวิจารณ์วงการเพลง ปาร์ก อึน ซอก กล่าว และว่า เราควรจะใช้กรณีนี้เป็นตัวอย่างสะท้อนถึงปัญหาที่เน่าเฟะในอุตสาหกรรมวงการเพลง และมองหาหนทางแก้ไขด้วย

นอกจากนี้ ปัญหาของวงคาร่าคาดว่าจะส่งผลไปถึงคลื่นเพลงลูกใหม่ของเกาหลีในญี่ปุ่นด้วย ซึ่งจะเริ่มจากวงการละครไปสู่ดนตรี ทั้งนี้ สื่อญี่ปุ่นให้ความสนใจข่าวนี้อย่างมาก พร้อมกับรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง
ที่มา http://www.matichon.co.th

ไม่มีความคิดเห็น: